จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังตัวเต็งออสการ์แห่งปีนี้จากทุกสำนัก เพราะว่าทุกคนต่างยกย่องให้ว่ามันเป็นคู่แข่งที่มาเป็นอันดับต้นๆในด้านของความยอดเยี่ยมทั้งตัวหนัง และ ทีมนักแสดง สำหรับ The Big Short หรือในชื่อไทย ‘เกมฉวยโอกาสรวย’ ที่ล่าสุดตัวหนังก็ได้เบิกโรงหนังออสการ์ เข้าฉายในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของบุคคล 4 คนที่เห็นเค้าลางของวิกฤติเศรษฐกิจก่อนองค์กรอื่น ทั้งธนาคารขนาดใหญ่, สื่อมวลชน และรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาจึงเกิดไอเดียในการลงทุนที่นำไปสู่ด้านมืดของระบบธนาคารสมัยใหม่ ที่ทำให้เขาต้องตั้งคำถามกับทุกคนและทุกสิ่ง เพื่อที่จะจับฉ้อโกง และหาผลประโยชน์รวยๆจากพวกมัน
The Big Short เป็นผลงานการกำกับของ อดัม แม็คเคย์ ผู้ซึ่งโด่งดังมาจากหนังตลกสุดกวนอย่าง Anchorman ทั้ง 2 ภาค ซึ่งพอมาเรื่องนี้ก็นับได้ว่าน่าสนใจนักที่ทำไมเขาถึงเปลี่ยนแนวมาทำหนังเครียด แถมยังเป็นเรื่อง หุ้น อีกตั้งหาก โดยที่เด็ดดวงไปกว่าคือการที่เขาร่วมเขียนตัวบทหนังด้วย กับการสร้างจากเรื่องจริงซึ่งเป็นหนังสือระดับเบสเซลเลอร์โดย ไมเคิล ลูอิส ผู้เขียน Moneyball โดยแน่นอนว่าในแง่ของการที่ในเมื่อมันเป็นหนังหุ้น สิ่งแรกที่เหล่าคนดูนึกถึงคงเป็นหนังหุ้นแบบเครียดๆอย่าง Wall Street หรือ Margin Call ไม่ก็อาจจะเป็นหนังที่มี หุ้น เป็นเพียงส่วนประกอบอย่าง The Wolf of Wall Street ซึ่งแน่นอนว่าในแง่ของส่วนแรก คนดูส่วนมากจะไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวความเป็นไปอย่างหมดจด ในขณะที่ส่วนหลัง ตัวของ หุ้น ก็แทบจะไม่ค่อยมีบทบาทใดๆต่อหนังนัก แต่สำหรับ The Big Short แล้ว มันจับเอา 2 อย่างนั้นมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ความกวนคล้ายผลงานเรื่องเก่าๆของผู้กำกับ แต่ก็กลับสามารถพูดเรื่องจริงจังอย่าง หุ้น ออกมาได้อย่างง่ายดาย ผ่านทั้งการทำตัวเป็นหนังสารคดี และรวมไปถึงการตัดต่อฉากที่อธิบายเรื่องราว ความเป็นไปของระบบหุ้นอย่างง่ายๆ โดยแน่นอนว่างานนี้ตัวหนังมีภาษีดีกว่าจำพวก Wall Street อย่างเห็นได้ชัดตรงที่ ตัวหนังทำให้เรื่อง หุ้น ไม่ใช่เรื่องยาก และคนดูก็เข้าใจไปกับมันได้ จนทำให้ทุกการซื้อ การขาย การลงทุน ของตัวละครในเรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ดุเด็ด เผ็ด มันส์ และสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูคล้ายกับว่าตนเองเอาเงินไปลงหุ้นด้วยได้อย่างสำเร็จ
ก่อนที่ท้ายสุดตัวหนังจะค่อยๆโหดขึ้นเรื่อยๆ กับการวิพากย์วิจารณ์ถึงระบบการฉ้อโกงของ ธนาคาร และรวมไปถึง รัฐบาล ที่ทำให้ประชาชนธรรมดาๆ ตาดำๆ ต้องตกที่นั่งลำบาก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลตัวหนังสามารถแบ่งพาร์ทเล่าถึงทั้งในแง่ของความเป็นตลกร้าย ความเครียด และ ความหดหู่อันเน่าเฟะภายในระบบได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยแน่นอนว่านี้อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยการสนทนา และบทสนทนาที่ต้องตามให้ทันตลอดเรื่อง แต่มันเป็นหนังสำหรับใครที่ต้องการจะดูการปะฉะดะกันอย่างดุเด็ด เผ็ด มันส์ และแน่นอนว่าคุณจะเข้าใจถึงความเป็นไปของหุ้นได้อย่างไม่ยาก พร้อมกับปิดท้ายด้วยคำถามที่ต้องกลับมาตั้งความเห็นถึงการดำเนินงานของเหล่า รัฐบาล และ ธนาคาร อีกครั้ง