ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับแฟนคลับ และ คอหนัง ของเฮียแก เพราะดูเหมือน เดอะ ร็อค จะกลับมาโชว์กล้ามบู๊แบบเต็มกำลังแล้วแน่นอน หลังจากไปหลอกเด็กๆใน The Game Plan และ The Tooth Fairy อยู่นาน และก่อนจะถึงหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่ป๋า ร็อค แกจะได้เป็นตัวเอก และ ตัวประกอบ อย่าง G.I.Joe 2 และ Fast & Furious 6 เฮียแกก็ขอส่งหนังเรื่องนึงที่ไปลุยเดี่ยวกันมาก่อนใน Snitch
โดยเขารับบทพ่อที่ลูกชายถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฏหมายและกลาย เป็นแพะรับบาปต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี เขาต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกชายจึงรับอาสาเข้าไปเป็นไส้ศึกใน ขบวนการค้ายาให้ตำรวจเพื่อสาวไปถึงตัวการที่แท้จริง ชีวิตที่ต้องเสี่ยงต่อการถูกจับได้ โดยที่เขาเองก็ไม่เคยถูกฝึกฝนมารับมือกับสถานการณ์อันตรายที่พลาดพลั้งเพียง นิดก็อาจหมายถึงชีวิต สร้างจากเรื่องจริงของปฏิบัติการณ์ล้างบางเจ้าพ่อค้ายาที่ลือกระฉ่องอเมริกา วีรบุรุษติดดินผู้บ้าเหนือนรก
Snitch กำกับการแสดงโดย ริค โรแมน วอห์น ผู้กำกับหน้าใหม่ที่ก้าวจากการเคยเป็นสตันท์ มากำกับหนังแทน โดยหลังจากในปี 2008 เขาเคยเปิดตัวของเขาด้วยหนังทุนต่ำ แต่คำวิจารณ์ออกมาค่อนข้างดีกันไปแล้วกับ Felon ที่คราวนั้นได้ วาล คิมเมอร์ มาร่วม และในคราวนี้เขากลับมาพร้อมกับหนังเรื่องใหม่ที่ได้ เดอะ ร็อค มารับบทเป็น พ่อยอดนักสู้ โดยหลายๆท่านอาจจะเคยเห็นหนังแอ็คชั่น ที่ปะหัวตัวเองไว้ว่า สร้างจากเหตุการณ์จริง แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ตัวหนังเหล่านั้นต่างนำเสนอ ก็เห็นจะเพิ่มสี แต่งกลิ่น ให้กับเรื่องราวจนเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตกลงแล้วส่วนไหนที่ตัวหนังบอกว่า สร้างจากเหตุการณ์จริง กันแน่ เพราะทุกอย่างทั้งมวลมันดูแลเป็นหนังไปหมด ว่าแล้วดูเหมือนผกก.ของ Snitch จะทำการบ้านมาดี ด้วยการดำเนินเรื่อง พยายามยึดตามหลักของ เหตุการณ์จริงแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์บีบคั้น ฉากแอ็คชั่นที่ดูไม่เว่อเกินเหตุ หรือแม้แต่ตัวนักแสดงก็ตาม
และผลของมันที่ออกมาก็ถือได้ว่ามีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย ในการยึดตามหลักความจริงของเหตุการณ์ที่ตัวหนังยืมมาทำ โดยในข้อดีของตัวหนังที่ต้องขอชื่นชมคือ การที่ตัวหนังสามารถสร้างน้ำ สร้างเนื้อ ให้กับตัวละครทั้งหมดทั้งมวล ดูแล้วรู้สึกว่า ‘เออ เอ็งเป็นคนปกติธรรมดา ไม่ใช่ฮีโร่ผู้เก่งกล้ามาจากไหน’ แม้แต่กระทั่ง เดอะ ร็อค ที่เรื่องนี้ต้องใช้ฝีมือการแสดง มากกว่าโชว์พละกำลังแบบหนังแอ็คชั่นตลาดเรื่องก่อนๆ และผลลัพธ์ของสิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าออกมาค่อนข้างโอเคพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเมื่อการที่ตัวหนังไม่ได้มีฉากที่เว่อจนเกินเหตุ จึงทำให้หลายๆฉากในการแฝงตัวเข้าไปสืบสวนของ ตัวละครเอก สามารถสร้างสถานการณ์ที่บีบคั้นได้ในประมาณนึง และการแสดงในบทดราม่าของ เดอะ ร็อค ก็ดูไม่แย่ไปซะทีเดียวเลยด้วยเช่นกัน จนทำให้เมื่อทั้ง สถานการณ์ ตัวละคร และ การแสดง ที่ออกมันจึงดูแล้วรู้สึกจริง สามารถจับต้องความเป็นผู้เป็นคนได้ แบบที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นหนังทริลเลอร์ที่แปะหัวว่า สร้างจากเหตุการณ์จริง ทำได้ดีเท่านี้สักเท่าไหร่นัก
แต่ในขณะเดียวกัน การที่ตัวหนังพยายามไม่พึ่งเหตุการณ์เว่อๆ หรือฉากแอ็คชั่นที่ดูเก่งเกินผู้เกินคน มันจึงทำให้สิ่งนึงที่ตัวหนังดูแล้วรู้สึกขาดไปจึงอยู่ที่ ความสนุก ซะส่วนใหญ่ เพราะในเมื่อการที่ตัวหนังพยายามเดินตามหลักเหตุการณ์จริงไปซะทุกอย่าง มันจึงวทำให้ตัวหนังจากที่ปะหัวไว้ที่ตัวอย่าง และ ชื่อไทย ที่ดูเหมือนจะแอ็คชั่นมันส์สนั่นจอ กลับกลายเป็นหนัง ดราม่า ทริลเลอร์ ที่เต็มไปด้วยบทสนทนา โดยขาดแคลนฉากแอ็คชั่นเด็ดๆในทันที และรวมไปถึงเหตุผลรองรับในด้านอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน จนอาจจะทำให้ในที่สุดแล้วใครที่คาดหวังจะให้ เดอะ ร็อค กลับมาเตะตูดวายร้ายอาจจะต้องผิดหวัง เพราะในคราวนี้ดูเหมือนเฮียแกจะเน้นไปทางสายดราม่า ทริลเลอร์ ที่อยากโชว์ลีลาการแสดงมากกว่าพละกำลังเสียมากกว่าครับ