The Four เป็นผลงานกำกับร่วมกันของ กอร์ดอน ชาน และเจเน็ท ชุน ที่ดัดแปลงจากผลงานของ อุงสุยอัน โดยนิยายที่เขียนออกมาแล้วหลายตอนนับสิบเล่มเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์มาแล้วหลายครั้ง เล่าเรื่องเกี่ยวกับ 4 สุดยอดมือปราบ ประกอบไปด้วย บ้อเช้ง (ไร้น้ำใจ), ทิชิ่ว (มือเหล็ก), ตุยเหมี่ย (ล่าชีวิต) และ แนฮ้วย (เลือดเย็น) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ และขึ้นตรงกับ ?จูกั๊วะซิงแซ? ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งวังหลวง กับปฏิบัติการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยุทธจักร และกระทบมาถึงทางการรัฐบาล โดยในเรื่องนี้เหล่ามือปราบต้องพบเจอกับปัญหาเงินปลอมที่กำลังระบาด แต่แล้วสืบไปสืบมาจึงทำให้พวกเขาไปเจอเรื่องใหญ่กว่า
The Four เป็นผลงานการกำกับของ กอร์ดอน ชาน และ เจเน็ท ชุน ซึ่งรายแรกก็มีโอกาสได้เข้ามาทำหนังในฮอลลีวู้ดเป็นระยะๆ และที่เราคงรู้จักกันดีคงหนีไม่พ้น The Medallion ของ เฉินหลง หรือแม้แต่ The King of Fighters หนังแผ่นเล็กๆคล้าน เทคเค่น ส่วนรายหลังก็เป็นผู้กำกับหนังจีนแนวคอมเมดี้เสียส่วนใหญ่ โดยสำหรับ The Four คงเป็นหนังที่คนมีอายุมากหน่อยคงจะรู้จักกันดี เพราะมันเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากผลงานของ อุงสยอัน ที่มีนิยายออกมาถึงหลายตอน พร้อมทั้งยังดัดแปลงเป็นทีวีซี่รี่ย์อีกมาก ที่เราคงรู้จักกันดีในชื่อของ ‘4 ยอดมือปราบ’ ที่ในฉบับที่ดังๆก็คงเป็นฉบับ หลินฟง ที่ตัวละครพระเอกเก่งเว่อร์จนครองใจคนดูไปหลายราย โดยดูเหมือนว่าในฉบับใหม่นี่ ตัวหนังจะมีการพยายามเข้าถึงคนดูมากขึ้นโดยหยิบเอาดาราแถวหน้าอย่าง หลิวอี้เฟย และ เติ้งเชา นะ
มารับบทเป็น 2 ตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งตัวผมนั่นไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์ของหนังชุดมากสักเท่าไหร่นัก แถมตอนเป็นทีวีซีรี่ย์ก็ได้แต่เคยดูผ่านๆ ตัวผมจึงไม่สามารถนำเอาฉบับหนังนี่ ไปเปรียบกับหนังชุดทีวีที่เคยฉายได้ แต่สิ่งที่ผมดูแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างโอเคในระดับนึงกับในฉบับหนัง คือการที่ตัวผู้กำกับ กอร์ดอน ชาน และ เจเน็ท ชุน ได้มีการพัฒนาด้านของ ฉากแอ็คชั่น ออกมาได้ในระดับดีทีเดียว เพราะฉากแอ็คชั่นในหนังจะมีอารมณ์ของการผสมผสานหนังจีนแบบเก่าๆ เข้ากับเอฟเฟค และคิวบู๊ ที่ออกไปในแนวทางสมัยใหม่ได้ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่ปล่อยเอฟเฟกต์กันเต็มที่ จนลืมไปเลยว่านี้กำลังดูหนังจีน
พร้อมทั้งด้านของงานสร้างฉากหลัง ก็ยังถือว่าสามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับหนังจีนเรื่องอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะแอบมีซีจีหลอกตาอยู่บ้างประปราย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมดูแล้วรู้สึกว่าน่าผิดหวังจริงๆคงอยู่ที่ เนื้อเรื่อง และ นักแสดง เสียมากกว่า เพราะด้านของตัวเรื่อง สิ่งที่น่าผิดหวังคือการที่หนังได้มีวัตถุดิบอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความจงรักภักดี หรือแม้แต่ด้านของ ความสามัคคี ที่หนังยังสามารถเล่นกับเรื่องราวนั่นผ่านตัวละคร 4 มือปราบ และ อาจารย์ ได้ แต่ท้ายสุดหนังกลับไม่เล่นและตัดมันทิ้งซะดื้อๆ เพื่อให้ตัวเรื่องกลับเข้ามาสู่ความเป็นหนังแอ็คชั่น พร้อมทั้งยังแอบมีหลายช่วงที่ค่อนข้างอืดและน่าเบื่อ กับการเดินวนอยู่กับความสัมพันธุ์ของแต่ละตัวละคร ที่ท้ายสุดตัวหนังก็ไม่ได้ใช้อีกเช่นเดียวกันหละครับ จนอาจจะทำให้คอหนังจีน หรือ แฟนๆหนังชุดนี้อาจมีผิดหวังได้
ส่วนทางด้านนักแสดง ก็ยิ่งน่าเสียดายใหญ่ เมื่อการที่หนังดึงเอานักแสดงแถวหน้ามาเรียกแขกมากมาย แต่ท้ายสุดนักแสดงเสียเองที่ยังดูแล้วไม่สามารถเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้ดีนัก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ หลิวอี้เฟย ที่คาแรกเตอร์ของ บ้อเชง จะออกแนวเป็นตัวละครที่เงียบ และ สุขุม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ หลิวอี้เฟย ยังไม่สามารถมอบให้แก่คนดูได้ดีนัก เพราะทั้งหน้าตาและท่าทางของเธอ ยังดูไม่ถึงกับเป็นคนที่ไร้จิตใจมากนัก ส่วนทางด้านของรายอื่นอย่าง เจิ้ง จงจี ในบทของ ตุยเหมี่ย และ จูจ้าวหลง ในบท ทิชิ่ว ที่ถึงแม้จะพยายามฉีกคาแรกเตอร์เหล่านี้ออกมาแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังหนีไม่พ้นเงา ที่ในฉบับหนังชุดทีวีเคยสร้างไว้ จนได้
เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้ว สิ่งที่ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของ The Four ในฉบับหนังใหญ่เวอร์ชั่นใหม่นี่ คงหนีไม่พ้นด้านของ ฉากแอ็คชั่น ที่ถือว่าฝีมือของ 2 ผู้กำกับ พัฒนาขึ้นจากผลงานก่อนมากทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ในด้านของ บท และ ตัวละคร ยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก และ แฟนๆอาจจะมีผิดหวังได้อย่างแน่นอนหละครับ